Translate

วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

คุณลุงหน้าร้าน KFC เขาเป็นใคร


เคยสงสัยหรือเปล่าว่า คุณลุงหน้าร้าน KFC เขาเป็นใครกัน ?

หุ่นชายแก่ที่เราเห็นเวลาผ่านร้านเคเอฟซีนั้นคือผู้ก่อตั้งเคเอฟซี ตั้งแต่ปี ค.ศ.1939 เขาชื่อว่า ฮาร์แลนด์ ดี แซนเดอร์ส เกิดวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 1890 มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน เป็นลูกชายคนโต เมื่อเขาอายุได้เพียง 6 ขวบบิดาก็เสียชีวิตทำให้ แม่ต้องทำงาน เพื่อหาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว แซนเดอร์สยังเป็นเด็กน้อยอายุ 6 ขวบ ต้องรับภาระเลี้ยงดูน้องชายอายุ 3 ขวบและน้องสาวที่ยังเล็กอยู่ เขาต้องทำงานบ้านทุกอย่าง รวมถึงทำอาหารเองด้วย แซนเดอร์สมีความสามารถในเรื่องนี้มาก จนได้รางวัลชนะเลิศในการประกวดทำอาหารประจำหมู่บ้าน ขณะที่อายุได้เพียง 7 ขวบเท่านั้น แซนเดอร์สเริ่มรับจ้างทำงานครั้งแรก เมื่อมีอายุได้ 10 ปี โดยเริ่มจากการทำงานในฟาร์มใกล้บ้านได้ค่าแรงเพียงเดือนละ 2 ดอลลาร์ และอายุได้ 12 ปี เขาก็ออกจากบ้านไปทำงานที่ฟาร์มในหมู่บ้านเฮนรี วิลล์

ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตการทำงานหลายๆ อย่างที่เขาเคยทำ เช่น เป็นนักดับเพลิง ฝึกงานที่ศาลขายประกัน ขายยาง ทำงานที่สถานีขนส่ง และเมื่ออายุ 47 ปี แซนเดอร์สก็เริ่มทำอาหารจำหน่ายที่สถานีขนส่งในรัฐเคนตั๊กกี้ ปรากฏว่าอาหารที่เขาทำเป็นที่นิยมมาก แซนเดอร์สจึงลาออกไปทำร้านอาหาร หลังจากนั้นอีก 9 ปี เขาได้คิดค้นสูตรการปรุงไก่ทอดด้วยส่วนผสมลับเฉพาะ จากเครื่องเทศ 11 ชนิด และใช้วิธีการทอดไก่แบบพิเศษเพื่อรักษารสชาติและความหอมอร่อยของไก่ทอดไว้ ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดไก่ทอด สูตรต้นตำรับเคเอฟซี แซนเดอร์สสร้างชื่อให้รัฐเคนตั๊กกี้มาก ผู้ว่าการรัฐจึงแต่งตั้งให้เขาเป็น "ผู้พันแซนเดอร์ส" เพื่อเป็นเกียรติ จนถึงวันนี้เคเอฟซีได้ขยายสาขามากกว่า 29,500 แห่งใน 92 ประเทศทั่วโลก ...โดยมีหุ่นจำลองของผู้พันแซนเดอร์สตั้งอยู่หน้าร้าน เหมือนเป็นเครื่องรับประกันถึงความอร่อยของไก่ทอด ตำหรับ

ค.ศ.1890 ตำนานความอร่อยของไก่ทอด KFC เริ่มต้นโดยพันเอกฮาร์แลนด์ ดี แซนเดอร์สท่านถือกำเนิดขึ้นในเมืองคอร์บิน มลรัฐเคนตั๊กกี้ เมื่อวันที่ 9 กันยายน ในปี ค.ศ.1890

ค.ศ.1930 ในช่วงปี ค.ศ.1930 พันเอกฮาร์แลนด์ ดี แซนเดอร์สเริ่มปรุงไก่ทอดที่แสนอร่อย ให้แก่นักเดินทางทั่วไปที่มาหยุดพักรับประทานอาหารที่ร้านของท่านในเมือง คอร์บิน มลรัฐเคนตั๊กกี้

ค.ศ.1939 ชื่อผู้พันแซนเดอร์สเริ่มเป็นที่รู้จัก ในปี ค.ศ.1939 พันเอกฮาร์แลนด์ ดี แซนเดอร์สได้รับเกียรติจากมลรัฐเคนตั๊กกี้แต่งตั้งให้ท่านเป็นผู้พันเคนตั๊กกี้ แทนความยินดีจากผู้ว่ามลรัฐ เคนตั๊กกี้ที่ท่านได้สร้างชื่อเสียงให้แก่รัฐ เพราะท่านได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจ เพื่อคิดค้นสูตรไก่ทอดที่แสนอร่อย โดยนำไก่มาคลุกเคล้ากับเครื่องเทศ 11 ชนิด และใช้วิธีพิเศษของการทอดด้วยเตาทอดระบบ ความดัน เพื่อรักษารสชาติ หอมอร่อยของไก่

ค.ศ.1950 ด้วยความมั่นใจในรสชาติและคุณภาพของไก่ทอดในปี ค.ศ.1950 ผู้พันเริ่มออกเดินทางไปทั่วสหรัฐอเมริกาและแคนาดาด้วยตัวท่านเอง จากร้านหนึ่งไปสู่อีกร้านหนึ่ง เพื่อขายแฟรนไชส์ธุรกิจของท่าน

ค.ศ.1955 ในปี ค.ศ.1955 ไก่ทอดเคนตั๊กกี้ได้ก่อตัวขึ้นในรูปบริษัทเป็นครั้งแรก โดยผู้ก่อตั้งคือผู้พันแซนเดอร์ส

ค.ศ.1964 มาในปี ค.ศ.1964 ผู้พันแซนเดอร์สได้ขายกิจการไก่ทอดเคนตั๊กกี้ให้แก่กลุ่มนักลงทุนมืออาชีพที่มี Jack Massey และ John Y. Brown Jr.เป็นแกนนำ

ค.ศ.1978 เพื่อรักษาไก่ทอดเคนตั๊กกี้ให้คงคุณภาพและรสชาติแบบดั้งเดิม จึงมีการเปิดศูนย์ฝึกอบรมแห่งชาติของ KFC ขึ้นในปี ค.ศ.1978 โดยมีผู้พันแซนเดอร์สเป็นผู้ตรวจสอบการรักษารสชาติ ของไก่ทอดเป็นหม้อแรกจากพีท ฮาร์แมน ผู้ที่ได้แฟรนไชส์เป็นรายแรก

ค.ศ.1980 แล้วในปี ค.ศ.1980 ผู้พันแซนเดอร์สก็ถึงแก่กรรมท่านอายุได้ 90 ปีร่างของท่านถูกนำไปตั้ง ณ ที่ทำการของเมืองหลวงมลรัฐเคนตั๊กกี้ และจากนั้นได้ถูกนำไปฝังที่สุสานเดฟฮิลล์ เมืองหลุยวิลล์

ค.ศ.1999 ในปัจจุบัน KFC มีเครือข่ายของร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีร้านที่ให้บริการอาหารและของว่างมากกว่า 29,500 แห่ง ในกว่า 92 ประเทศทั่วโลก KFC ภายใต้ความยิ่งใหญ่ของผู้พันแซนเดอร์สถือเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และยังคงก้าวต่อไปอย่างมั่นคงด้วยคุณภาพและสำนึกในความรับผิดชอบที่ดีต่อสังคม ไม่ว่าท่านจะอยู่ในประเทศใดท่านจะสามารถสัมผัสและระลึกถึงผู้พัน แซนเดอร์ส ตำนานแห่งไก่ทอดแสนอร่อยของ KFC ได้เสมอ

แหล่งที่มา Dek-d.com

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ทายนิสัยกรุ๊ปเลือด

นิสัยตามกรุ๊ปเลือด
A คนกรุ๊ปเลือดเอ ผู้ไม่ชอบทะเลาะกับใคร
บุคคลที่มีเลือดกรุ๊ปเอนั้น เป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง จึงไม่ค่อยโต้เถียง หรือแสดงความคิดเห็นขัดแย้งกับใคร เพราะเชื่ออยู่เสมอว่าความคิดของตนถูกต้องแล้ว ไม่ต้องไปขอความคิดเห็นจากใครอีก แต่ยังดีที่คนกรุ๊ปเลือดเอส่วนมากเป็นคนเอาใจเก่ง เห็นใจ และตามใจคนอื่นเสมอ ดังนั้นโอกาสที่จะพบว่าเขาไปทำให้ขุ่นข้องหมองใจนั้นจึงไม่ค่อยได้ปรากฏให้เห็นบ่อยนัก
แต่คนกรุ๊ปเลือดเอก็มีข้อเสียอยู่บ้าง ตรงที่เป็นคนขาดความคิดริเริ่ม ซึ่งหากเป็นชายที่บังเอิญได้หญิงฉลาด ทำงานเก่ง มาเป็นคู่ครอง ฝ่ายหญิงจะรู้สึกผิดหวังในตัวเขาอยู่บ้าง แต่สำหรับชาวกรุ๊ปเลือดเอที่เป็นหญิงแล้ว ลักษณะเช่นเดียวกันนี้ ก็อาจจะเป็นผลดีสำหรับเธอ เพราะทำให้เธอกลายเป็นแม่ศรีเรือน ถนัดในการดูแลบ้านช่อง ปรนนิบัติสามี อบรมบุตรหลาน เรียกว่า เพียบพร้อมคุณสมบัติของความเป็นแม่บ้าน นั่นแหละ
แต่มีข้อสังเกตอยู่อย่างหนึ่ง สำหรับหญิงเลือดกรุ๊ปเอ นั่นก็คือ ในเวลาที่หัวใจของเธอมีความรักนั้น เธอจะรักชนิดทุ่มเทให้หมดทั้งสี่ห้องหัวใจเลยทีเดียว แต่ถ้าเมื่อใดที่น้ำผึ้งเปลี่ยนรสจากหวานกลายเป็นขม เธอก็พร้อมที่จะสลัดคุณออกไปจากหัวใจอย่างคนที่มีความเข้มแข็ง เพราะสำหรับเธอแล้ว ให้เจ็บปวดปางตายเสียยังจะดีกว่าต้องมางอนง้อขอให้ใครเมตตาสงสาร นอกจากเป็นคนมีอารมณ์รุนแรงแล้ว สตรีเลือดกรุ๊ปเอยังเป็นคนที่รักสวยรักงาม ชอบแต่งตัวชนิดสาวสวยสมัยใหม่อยู่เสมอ แถมยังมีรสนิยมดีซะด้วย คือ สวยอย่างคนมีระดับ ว่างั้นเถอะ


B คนกรุ๊ปเลือดบี มีนิสัยร่าเริงเป็นสัญลักษณ์
ตามตำราท่านว่าผู้ที่มีเลือดกรุ๊ปบีนั้น จะเป็นบุคคลที่พร้อมจะหัวเราะได้ทุกเวลา เพราะมีนิสัยร่าเริง รักอิสรเสรี ตามใจตัวเอง ไม่แคร์ต่อสายตาประชาชี ใครจะหมั่นไส้ ใครจะค้อนก็ช่าง ฉันพอใจเสียอย่าง ใครจะทำไม เพราะฉะนั้น คนกรุ๊ปเลือดบี จึงชอบทำงานประเภท "วันแมนโชว์" คือไม่นิยมเข้าหุ้นกับใคร ลักษณะนิสัยของคนกรุ๊ปเลือดบี นั้นสามารถจะเป็นศิลปิน นักประพันธ์ หรือผู้สื่อข่าวที่ประสบความสำเร็จได้ หรือหากจะทำงานในองค์การใหญ่ โอกาสเป็นผู้บริหารก็มีมาก ทั้งนี้ก็เพราะเขาเป็นคนเด็ดเดี่ยว ใจกว้าง และกล้าแสดงความคิดเห็น อย่างไม่หวั่นเกรงผู้ใด

ผู้ชายในกรุ๊ปเลือดบี จะเป็นคนประเภทสังคมเก่ง มีเพื่อนหญิงเป็นโหลๆ แต่อย่าคิดว่าเขาเป็นคนไม่จริงจังกับความรักล่ะ เขาจริงจังมาก แต่เสียนิดเดียว คือเขาจะจริงจังไปหมดเสียทุกคน นี่สิถึงจะเป็นปัญหา

ส่วนผู้หญิงที่มีเลือดกรุ๊ปบีนั้น ก็เก่งไม่แพ้ผู้ชายเหมือนกัน คือหัวใจไม่เคยว่าง ชอบเข้าสังคม ไม่แคร์เสียงนกเสียงกา แต่ถ้าเธอลองปักใจรักใครเข้าสักคนล่ะก็ ใจเธอจะแน่วแน่มั่นคง ไม่มีวันเสื่อมคลายเชียวล่ะ แต่แย่หน่อยนะ ตรงที่เธอเป็นคนชอบเพ้อฝัน รักความหรูหราฟู่ฟ่า ไม่ค่อยเห็นความสำคัญของขนบธรรมเนียมประเพณีเท่าใดนัก แถมเป็นคนเอาอะไรก็จะเอาให้ได้ โดยไม่สนใจว่าจะต้องแลกเปลี่ยนด้วยอะไร เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่บางครั้งเจ้าหล่อนจะถึงขั้นขายเพื่อน หรือไม่ก็ขายตนเอง เพียงเพื่อยกตัวเองให้ไปถึงจุดสุดยอดตามที่ต้องการ


O คนกรุ๊ปเลือดโอ บุคคลผู้มีความสุขุมเยือกเย็น
อันที่จริงนิสัยทั่วไปของคนกรุ๊ปเลือดโอ ก็คล้ายนิสัยของผู้ชายทั่วๆ ไปนั่นแหละ คือมีความสุขุมรอบคอบ ตัดสินใจด้วยเหตุผล เชื่อมั่นสมองมากกว่าหัวใจ ไม่ชอบเพ้อฝัน และค่อนข้างไปทางวัตถุนิยมหน่อยๆ ดังนั้น คนที่มีเลือดกรุ๊ปโอ จึงมักเป็นบุคคลที่มีงานทำเป็นหลักเป็นฐาน แถมหน้าที่การงาน ก็มักจะดีเป็นพิเศษซะด้วย เช่น เป็นทนายความ เป็นผู้ตรวจสอบบัญชี หรืออะไรก็ตามที่มีความมั่นคงมากๆ โดยปกติแล้ว คนกรุ๊ปเลือดโอเป็นคนไม่ค่อยมีจินตนาการเท่าใดนัก ความคิดความอ่าน ตลอดจนการกระทำของพวกเขา จะตั้งอยู่บนรากฐานของความจริงเสมอ คือถ้าตาไม่ได้เห็น มือไม่ได้จับละก็ อย่าหวังว่าเขาจะยอมเชื่อ และคงเพราะเหตุนี้กระมัง พวกเขาจึงสามารถสร้างครอบครัวได้เป็นปึกแผ่น ไม่เหลวเป็นน้ำ เหมือนพวกชอบฝันกลางแดด แม้ว่าจะเป็นคนเค็มนิดๆ ก็เถอะ แต่คนกรุ๊ปเลือดโอก็มีนิสัยโอบอ้อมอารี รักเพื่อนพ้อง เป็นผู้บังคับบัญชาที่ดี เป็นกำลังสำคัญของหน่วยงาน และเป็นที่รักใคร่โปรดปรานของเจ้านาย

ส่วนหญิงที่มีเลือดกรุ๊ปโอนั้น ก็เป็นคนที่จริงจังต่อชีวิตและความรัก ยินดีต่อการได้เป็นภรรยาและแม่ เพราะเธอมีความคิดที่จะอุทิศร่างกาย และวิญญาณเพื่อคนที่เธอรักอยู่แล้ว เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ก็อย่าเข้าใจผิด คิดว่าผู้หญิงกรุ๊ปเลือดโอจะใจง่าย มอบกายให้ใครเชยชมง่ายๆ ตรงกันข้าม เธอเป็นคนรักนวลสงวนตัวจนบางครั้งถูกหาว่าโบราณคร่ำครึด้วยซ้ำ แต่ถ้าชายที่มารักเธอนั้นมีความเข้าใจ และหัวเก่าพอๆ กับเธอละก็ เขาจะเป็นคนที่โชคดีทีเดียวล่ะ ที่ได้หญิงที่มีความรักความจริงใจอย่างเธอไปเป็นคู่ครอง


AB คนกรุ๊ปเลือด เอบี คนที่ไม่มีความแน่นอน

เวลาจะให้คนที่มีกรุ๊ปเลือดเอบีตัดสินใจอะไรสักอย่าง เขามักจะทำให้เราผิดหวัง หรือไม่เข้าใจในตัวเขาอยู่เสมอ ทั้งนี้ ก็เพราะคนเลือดกรุ๊ปเอบีนั้น เป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหว คิดมาก หรือไม่ก็คิดไกลจนคนอื่นตามไม่ทัน เป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดไม่อาจเดาใจได้ถูก คนกรุ๊ปเลือดเอบีเป็นคนแปลก เวลาที่ประสบความสำเร็จ เขาจะผยองลำพอง โอ้อวดความสามารถของตนไปทั่ว แต่ถ้าพบกับความผิดหวังแม้เพียงน้อยนิด เขาก็จะกลับกลายเป็นคนละคน ปิดประตูลั่นกุญแจ ตีอกชกหัวอยู่คนเดียว แม้ใครจะปลอบโยน ก็ไม่ยอมคลายความเศร้าโศก ซึ่งนิสัยประหลาดแบบนี้ แม้แต่เจ้าตัวของคนกรุ๊ปเลือดเอบีเองก็ให้คำอธิบายไม่ได้เหมือนกันว่า เพราะเหตุใดกันแน่ และเพราะความไม่เข้าใจตัวเองนี่แหละที่ทำให้บางครั้งก็เกิดปัญหา เช่น เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ หรือความคิดของตนเองได้

แต่จะอย่างไรก็ตาม คนเลือดกรุ๊ปเอบีก็เป็นคนมีใจเมตตา เห็นใจในความทุกข์ของผู้อื่นเสมอ และยินดีเสนอตัว เข้าช่วยแก้ปัญหาให้ แต่การช่วยเหลือของเขานั้น ออกจะน่ากลุ้มอยู่สักหน่อย คือเขาจะถือความคิดเห็นของตนเป็นใหญ่ สมมติตัวเป็นเจ้าทุกข์ หรือเจ้าของปัญหาเสียเอง เรียกว่าถ้าจะให้ช่วยก็ยินดี แต่ต้องช่วยด้วยวิธีของฉันนะ ในด้านอารมณ์นั้น คนเลือดกรุ๊ปเอบีจัดว่าเป็นบุคคลประเภทอารมณ์รุนแรง รักใครก็รักสุดขั้วหัวใจ เกลียดใครก็เกลียด เข้ากระดูกดำไปเลย แต่ถึงกระนั้น คนกรุ๊ปเลือดเอบี ก็มีความเป็นอัจฉริยะอยู่ไม่น้อย เพราะเขามีสมองที่ปราดเปรื่อง สามารถประดิษฐ์ คิดค้นสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ ที่จะนำชื่อเสียงมาสู่เขาและวงศ์ตระกูลได้ แต่คนเลือดกรุ๊ปเอบีมักไม่ประสบความสำเร็จในการขอร้องใคร กล่าวคือถ้าเอ่ยปากขอความช่วยเหลือสักสิบครั้ง จะถูกปฎิเสธเสียเก้าครั้ง ทั้งนี้อาจจะเพราะคนอื่นเขาเข็ดขยาดในความไม่แน่นอนของพี่แก ก็เลยขี้เกียจพาตัวเข้าไปข้องแวะด้วย ส่วนในด้านของความรักนั้น เนื่องจากคนกรุ๊ปเลือดเอบีไม่ค่อยมีความจริงใจต่อเพศตรงข้ามเท่าใดนัก ความรักจึงไม่ค่อยยั่งยืนเท่าที่ควร

10 เทศกาล "แปลกประหลาด" ที่สุดของโลก

รวมฮิต 10 เทศกาล "แปลกประหลาด" ที่สุดของโลก

1. "สงครามมะเขือเทศ" กลายเป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงที่สุดงานหนึ่งของโลก ในหลายเมืองของในสเปนจะจัดงาน"ลาโทมาติน่า" แต่ที่โด่งดังที่สุดก็ที่เมืองบูญอลในวันพุธสุดท้ายของเดือนสิงหาคมของทุกปี ประกอบไปด้วยการแสดงดนตรี การจุดพลุ ที่สำคัญมีมะเขือหนักกว่า 300,000 ปอนด์ถูกผู้ร่วมงานละเลงปาใส่กันอย่างสนุกสนาน ที่มาของเทศกาลนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด เริ่มมาตั้งแต่ปี 1944 หรือไม่ก็ปี 1945 บ้างก็บอกว่าเกิดขึ้นเพราะเป็นการแย่งชิงอาหารในหมู่เพื่อนๆ การแสดงความไม่พอใจเมื่อนักเล่นดนตรีเล่นไม่ได้เรื่อง หรือกระทั่งเป็นการชุมนุมต่อต้านนายพล ฟรันซิสโก ฟรังโก ผู้นำจอมเผด็จการ

2. เทศกาลยูเอฟโอ จัดขึ้นช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปีในเมืองโรสเวลล์ มลรัฐเม็กซิโกของสหรัฐฯ ซึ่งมีแฟนยูเอฟโอจากทั่วโลกจะมาชุมนุมกัน มีการประกวดแต่งชุดเอเลี่ยน การจะดอกไม้ไฟ รวมทั้งการเสวนาของแฟนพันธุ์แท้เรื่องยูเอฟโอ เมืองโรสเวลล์กลายเป็นศูนย์กลางของคนที่เชื่อว่ามีมนุษย์นอกโลก หลังจากในปี 1947 พบซากยานลึกลับในเมือง

3. เมืองซอนกกายาวิ ประเทศฟินแลนด์เป็นสถานที่ "แข่งขันอุ้มเมียชิงแชมป์โลก" ในประจำเดือนกรกฎาคมของทุกปี การแข่งขันนี้เพิ่งเริ่มขึ้นในทศวรรษ 1990 แต่คนท้องถิ่นบอกตลกๆ ว่ามันเริ่มมาชั่วนาตาปีแล้ว เพราะเมื่อก่อนผู้ชายจะขโมยผู้หญิงจากหมู่บ้านอื่นมาเป็นศรีภรรยา วันนี้รางวัลไม่ใช่ภรรยาและเป็นเบียร์น้ำหนักเท่าตัวภรรยาของพวกเขา ผู้ชายจะแบกภรรยาของตัวเอง หรือของเพื่อนบ้าน หรืออาจเป็นคู่รัก เทคนิกการอุ้มมีหลายวิธี แต่ในภาพนี้เป็นเทคนิคที่นิยมมากที่สุด และก็สำเร็จมากที่สุดด้วย สถิติโลกที่รอให้ทลายคือการอุ้มผ่านสิ่งกีดขวางระยะทาง 235.5 เมตรในเวลา 55 วินาที

4. เทศกาลซานเฟอร์มินในเมืองปามโปลน่า ประเทศสเปน เป็นที่รู้จักสำหรับการวิ่งวัวกระทิง ใน 8 วันของเทศกาล 9 วัน ถนนในเมืองถูกสร้างสิ่งกีดขวางไว้ คนที่ร่วมแข่งขันแต่งชุดพื้นเมืองสีขาว ผูกผ้าคลุมเอวและผ้าพันคอสีแดง รอสัญญาณเตรียมวิ่งหนีการไล่ขวิดของวัวกระทิงที่ถูกปล่อยออกมาในถนนนั้น การแข่งขันกินเวลาเพียง 2-3 นาที แต่ในแต่ละปีมีผู้บาดเจ็บเป็นร้อย อย่างไรก็ตามตั้งแต่ปี 1910 มีผู้เสียชีวิต 14 คน

5. ในเมืองเล็กๆ ชื่ออีเวรีย ประเทศอิตาลี ไม่ใช่การปามะเขือเทศแต่เป็นสงครามปาผลส้ม ระหว่างงานคาร์นิวาล 3 วันจัดขึ้นในช่วงถือศีลบวช ชาวบ้านราว 3,000 คนมารวมตัวกันที่ลานกลางเมืองที่มีประชากรไม่ถึง 25,000 คนนี้ เล่ากันว่า การปาส้มแป็นการรำลึกถึงการสู้รบต่อต้านจักรพรรดิผู้ข่มเหงกดขี่ในศตวรรษที่ 12 ผู้ร่วมงานมารวมตัวกันตามถนนรอคอยขบวนกลุ่มอาสาสมัครเป็นศัตรู ซึ่งใส่ชุดอัดนวมและหมวกป้องกันมาบนรถลาก ขณะที่ผู้ชมจะสวมหมวกหรือผ้าพันคอสีแดงเปป็นสัญลักษณ์ว่าตัวเองไม่ใช่นักรบ

6. ในชนบทอันเงียบสงบและงดงามของอังกฤษ การแข่งกันเก็บชีสถูกจัดขึ้นในทุกเดือนพฤษภาคม ผู้ท้างชิงไถลและล้มลุกคลุกคลานจากเขาที่สูงชันเพื่อไล่ล่าชีสแห่งเมืองกลอสเตอร์หนัก 8 ปอนด์และทำเป็นรูปวงล้อ ผู้แข่งขันต้องเก็บชีสที่ปล่อยลงจากเนินเขาและมีความเร็ว 70 ไมล์ต่อชั่วโมงให้ได้ก่อนที่ชีสจะตกลงไปตีนเขา เชื่อว่าประเพณีย้อนไปในอดีตเมื่อผู้คนในอดีตฉลองเวลาที่พระอาทิตย์เข้าใกล้เส้นศูนย์สูตรมากที่สุด โดยวงล้อชีสนั้นเป็นสัญลักษณ์ของพระอาทิตย์นั่นเอง

7. นับตั้งแต่ทศวรรษ 1600 เมืองคาสตริลโลเดมูร์เซีย ประเทศสเปนจัด "ฉลองเทศกาลโกลาโช" ด้วยประเพณี่การกระโดดข้ามเด็กทารก เทศกาลลี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อขจัดสิ่งชั่วร้ายออกไปจากเมือง ช่วงเดียวกับเทศกาลคอร์ปุสคริสตีของชาวคริสเตียน ขบวนพาเหรดเป็นสัญลักษณ์การรวมกันของสิ่งชั่วร้ายมาในเมืองและพากพวกมันเข้าไปโบสถ์ และพื่อขับสิ่งชั่วร้ายของจากเด็กไร้เดียงสา เด็กทุกคนที่เกิดในปีที่แล้วจะถูกนำมานอนบนฟูก จากนั้นชายที่แสดงเป็นสิ่งชั่วร้าย หรือเอลโกลาโช ก็จะกระโดดข้ามฟูกนั้นเพื่อเป็นการชำระล้างสิ่งชั่วร้ายออกไปจากตัวเด็ก


8. เทศกาลแปลกประหลาดที่สุดของโลกไม่ใช่ของมนุษย์เท่านั้น ที่ลพบุรีของไทยเราเองก็จัดเทศบุฟเฟต์สำหรับลิงกว่า 600 ตัว9 ที่อยู่ในเมืองนี้ เทศกาลนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่พระรามที่ตบรางวัลให้แห่หนุมานด้วยแผ่นดินที่กลายเป็นเมืองลพบุรี บุฟเฟต์หน้าวัดพระปรางสามยอด ประกอบไปด้วยอาหารผักผลไม้สดๆ หลายร้อยกิโลกรัม พร้อมกับไอติมและเครื่องดื่ม งานนี้กลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมในท้องถิ่นซึ่งเต็มใจอย่างยิ่งเพราะกิจกรรมนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยือนเป็นประจำทุกปี

9. เทศกาลหน่อไม้ฝรั่งในเมืองเอมไพร์ ในมลรัฐมิชิแกน งานนี้อุทิศแด่หน่อไม้ฝรั่งโดยเฉพาะ มิชิแกนเป็นผู้ผลิตหน่อไม้ฝรั่งมากที่สุดในสหรัฐ แต่เพราะมิชิแกนรู้จักในด้านศิลปะมากกว่าการเกษตรจึงจัดงานนี้ขึ้น ซึ่งรวมถึงกิจกรรมแปลกในทุกเดือนพฤษาภาคม มีขบวนพาเหรดแต่งตัวเป็นหน่อไม้ฝรั่ง การประกวดแต่งบทกวีหน่อไม้ฝรั่ง มีงานเลี้ยงอาหารนานาชนิดจากพืชชนิดนี้และตบท้ายด้วยเบียร์ที่ทำมาจากหน่อไม้ฝรั่งด้วย

10. ในเกาหลีใต้ช่วงเดือนกรกฎาคมจะมีเทศกาลบอร์ยอง อันเป็นเทศกาลอาบโคลนที่มีชื่อเสียงสำหรับคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ดินโคลนจากทุ่งนาไม่หางจากชายหาดไม่ดีนักสำหรับการเกษตรกรรม แต่กลับอุดมด้วยแร่ธาตุซึ่งกลายเป็นแหล่งทำเงินให้กับผู้ผลิตเครื่องสำอาง แต่ละปี ดินโคลนจะถูกขุดขึ้นมาและขนไปยังชายหาดให้นักท่องเที่ยวกลิ้งเกลือก และอาบเล่นอย่างสนุกสนานในกองโคลนอันบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นโอกาสดี เพราะปกติแล้วจะมีการจำกัดการใช้โคลนเพื่ออุตสาหกรรมความงามมาก

แหล่งที่มา : http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000076360






















วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เผยนานที่สุดในศตวรรษที่ 21


เตรียมจัดชมปรากฎการณ์สุริยุปราคา ช่วงเช้าวันที่ 22 กรกฎาคม


22 กรกฎาฯ ไทยชมปรากฎการณ์สุริยุปราคาทั่วประเทศ 6 นาที 39 วินาที นานที่สุดในศตวรรษที่ 21 สดร.ร่วม 6 สถาบันการศึกษาตั้งกล้องชมฟรี แนะอย่าดูด้วยตาเปล่า เริ่มดูได้ตั้งแต่เช้า 07.02 น กทม.ดูได้ 07.06 น.
นายบุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ว่า สดร.ร่วมกับสถาบันการศึกษา 6 แห่ง
ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

นอกจากนี้ ในปี 2553 คนไทยยังมีโอกาสชมปรากฏการณ์สุริยุปราคาบางส่วนอีกครั้ง ในวันที่ 15 มกราคม 2553 ซึ่งสามารถเห็นได้ทุกภูมิภาค โดยแต่ละภูมิภาคจะเห็นปรากฎการณ์ในเวลาที่แตกต่างกันเช่นกัน ที่กรุงเทพฯ จะเริ่มตั้งแต่เวลา 14.00 น.สิ้นสุดเหตุการณ์ในเวลา 16.58 น.
และจะเกิดขึ้นนานสุดที่ภาคเหนือ ที่ จ.แม่ฮ่องสอน กินเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 6 นาที โดยดวงอาทิตย์จะถูกดวงจันทร์บดบังมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 77 ของพื้นที่ดวงอาทิตย์ ซึ่งถือว่านานกว่าการเกิดสุริยุปราคาที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ แต่ทั้งหมดก็เป็นโอกาสดีของคนไทยที่จะได้ชมและศึกษาปรากฎการณ์บนท้องฟ้า เพราะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก” นายบุญรักษา กล่าว
ด้านนายศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการ สดร. กล่าวว่า สำหรับบางพื้นที่ของโลก เช่น อินเดีย จีน ญี่ปุ่น และมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ซึ่งเป็นบริเวณที่เส้นทางเงามืดของดวงจันทร์พาดผ่านจะเกิดเป็นสุริยุปราคา แบบเต็มดวงโดยสุริยุปราคาเต็มดวงครั้งนี้ จะกินเวลานานที่สุดในศตวรรษที่ 21 คือ 6 นาที 39 วินาที ที่บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้
ในส่วนของการติดตามปรากฏการณ์สุริยุปราคาบางส่วนในประเทศไทยนั้น เนื่องจากดวงอาทิตย์มีความสว่างมาก ไม่สามารถดูด้วยตาเปล่าได้ จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังและอุปกรณ์ที่มีความปลอดภัยสูง เช่น แว่นตาดูดวงอาทิตย์ที่ สดร. และ อพวช.ได้ผลิตออกมา
การใช้กล้องรูเข็มฉายภาพลงบนฉากรับภาพก็มีความปลอดภัยเนื่องจากเราไม่ได้ มองดวงอาทิตย์โดยตรง วัสดุที่อาจนำมาใช้เป็นแผ่นกรองแสงได้ เช่น แผ่นซีดี ดีวีดี แต่ต้องแน่ใจว่าสารเคลือบไม่หลุดลอก นอกจากนี้ยังสามารถใช้กระจกช่างเชื่อมเบอร์ 14 ดูดวงอาทิตย์ได้อย่างปลอดภัยด้วย
อนึ่ง สุริยุปราคาเหนือฟ้าเมืองไทยวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ เป็นปรากฏการณ์ที่นานที่สุดในศตวรรษที่ 21 คือ 6 นาที 39 วินาที เกิดเวลาประมาณ 07.00 – 09.19 น. เป็นสุริยุปราคาแบบเต็มดวง มีแนวคราสตามเส้นทางที่พาดผ่านประเทศอินเดีย จีน ญี่ปุ่น และมหาสมุทรแปซิฟิคใต้
ส่วนสุริยุปราคาบางส่วนเห็นได้เป็นบริเวณแนวกว้างตามเส้นทางที่เงามัว ของดวง จันทร์พาดผ่าน ได้แก่ เอเชียตะวันออกทั้งหมด อินโดนีเซีย และมหาสมุทรตอนใต้ ประเทศไทยจะเห็นเป็นสุริยุปราคาแบบบางส่วน และสามารถเห็นได้ทุกภูมิภาค
โดยแต่ละภูมิภาคจะเห็นปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นในเวลาแตกต่างกัน และปรากฏการณ์สุริยุปราคาบางส่วนในครั้งนี้จะเกิดขึ้นนานที่สุดในภาคเหนือ ซึ่งจะมีการตั้งกล้องชมพร้อมกัน ดังนี้ ภาคกลาง ตั้งกล้องที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ และศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย มหาวิทยาลัยนเรศวร ภาคตะวันออก
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไปตั้งกล้องที่ จ.ระยอง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ภาคใต้ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต สำหรับกรุงเทพฯ ตั้งกล้องที่โรงเรียนเทพศิรินทร์
สำหรับตารางแสดงเวลาที่เกิดสุริยุปราคาในประเทศไทย ได้แก่
เชียงราย เวลา 07.02 น.
เชียงใหม่ เวลา 07.02 น.
พิษณุโลก เวลา 07.04 น.
อุดรธานี เวลา 07.05 น.
ขอนแก่น เวลา 07.06 น.
อุบลราชธานี เวลา 07.09 น.
นครราชสีมา เวลา 07.07 น.
กรุงเทพฯ เวลา 07.06 น.
ฉะเชิงเทรา เวลา 07.07 น.
ประจวบคีรีขันธ์ เวลา 07.08 น.
ภูเก็ต เวลา 07.13 น.
และสงขลา เวลา 07.16 น.

สุดยอดอัญมณีแห่งแผ่นดินสยาม


The Golden Jubilee
สุดยอดอัญมณีแห่งแผ่นดินสยาม

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ

หากจะกล่าวถึงสุดยอดเพชร เพชรหายากเชื่อว่าคงมีน้อยคนที่ทราบว่าในประเทศไทยมีเพชรที่สำคัญของโลกอยู่เม็ดหนึ่งคือ “เพชรกาญจนาภิเษก” เพชรกาญจนาภิเษก หรือ The Golden Jubilee ถือเป็นเพชรสีเจียระไนที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสีเหลืองทองธรรมชาติ โดยขุดพบที่เหมืองพรีเมียร์ แคว้นทรานสวาล แอฟริกาใต้ ในปี ค.ศ.1986 มีน้ำหนักเพชรดิบก่อนเจียระไนหนักถึง755.50 กะรัต และกว่าจะกลายเป็นเพชรที่มีความสวยงามอย่างทุกวันนี้ เพชรเม็ดนี้ต้องใช้เวลาเจียระไนถึง 3 ปีเต็ม โดยช่างเจียระไนผีมือเลิศจากเมืองแอนท์เวิร์ป จนได้เป็นเพชรที่มีเหลี่ยมเจียระไนที่สมบูรณ์ที่สุดคือ 148 เหลี่ยม โดยเป็นเหลี่ยมบนหน้าเพชร 55 เหลี่ยม เหลี่ยมด้านล่าง 69 เหลี่ยม และเหลี่ยมที่ขอบเพชร 24 เหลี่ยม เดิม

เพชรเม็ดนี้เป็นของบริษัท เดอเบียร์ ซึ่งนำมาแสดงที่งาน บีโอไอแฟร์ ประเทศไทยในปี ค.ศ.1995 ราคาประมาณ 6 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในงานนี้เองได้มีนักธุรกิจไทยรวมกลุ่มกันติดต่อขอซื้อเพชรเม็ดนี้ เพื่อนำไปประดับไว้บนยอดคฑาทองคำทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยความล้ำค่าและสง่างามของเพชรเม็ดนี้ เมื่อประกอบเข้ากับคฑาทองคำอันสูงค่าและเสริมด้วยเพชรเหลี่ยมมหาราชและเพชรเหลี่ยมราชินี ทำให้คฑาทองคำประดับเพชร “The Golden Jubilee” ยิ่งเลอค่าเหมาะที่จะทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งปวงชนชาวไทย เนื่องในโอกาสที่ครองราชย์เถลิงสิริราชสมบัติครบ 50ปี ในปี พ.ศ.2539 ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์นานที่สุดในโลก นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาราชาแห่งเพชรเม็ดนี้จึงได้ชื่อว่า “เพชรกาญจนาภิเษก”