Translate

วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ทองคำเปลว

ทองคำเปลวมี 2 แบบ แบบแรกเป็นทองคำเปลวที่ตีจากทองคำแท้ๆ กับทองคำเปลวที่เป็น film พลาสติกทองจริงใช้ในงานช่างฝีมือ พวกลงรักปิดทองทองเทียมใช้กับพวก เราๆท่านๆ ไว้ปิดทองพระค่ะ การใช้ทองคำเปลวในงานวิจิตรศิลป์ มีหลักฐานว่า มีใช้มาแล้วตั้งแต่สมัยสุโขทัย และแพร่หลายมากขึ้นในสมัยอยุธยา และรัตนโกสินทร์ และในอดีต ศิลปะลายรดน้ำนี้ ใช้เฉพาะในชนระดับสูง เช่น พระมหากษัตริย์ และในงานทางพุทธศาสนา
ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานเสรีภาพแก่ประชาชนมากขึ้น จึงมีการใช้ลายรดน้ำได้ทั่วไป และมีช่างทองหลวงกลุ่มหนึ่ง นำความรู้เรื่องการตีทอง ทำทองคำเปลวจากในวัง มาทำเป็นอาชีพ แหล่งผลิตทองคำเปลวแท้ ในกรุงเทพมหานครในอดีต มีย่านตีทองคำเปลวสำคัญ เรียกว่า บ้านช่างทอง

ในปัจจุบัน คือ ย่านถนนตีทอง จนถึง สี่แยกคอกวัว เป็นแหล่งที่อยู่ของช่างทองหลวงในสมัยรัชกาลที่ ๕ แต่ในปัจจุบัน การทำทองคำเปลว กระจายตัวไปตามที่ต่างๆด้วย เพราะความต้องการใช้ ทองคำเปลวมีมากขึ้น ส่วนที่ถนนตีทอง ยังมีช่างตีทองคำเปลวเหลืออยู่เพียง ๒ ครอบครัว คือ ครอบครัวของนายสาธิต สุขุมาภัย กับครอบครัวของ นางจิตรา ศิริโพธิสมพร ทั้ง ๒ ครอบครัวนี้ เป็นพี่น้องกัน เข้าใจว่าคงสืบทอดศิลปะการตีทองมาจากบรรพบุรุษช่างทองของย่านนี้ ทองคำเปลวแท้กรรมวิธีการการผลิตทองคำเปลวกว่าจะได้มาเป็นทองคำเปลวที่เราๆท่านใช้ในการทำบุญปิดทองพระ ไม่ได้ผลิตออกมาได้ง่าย ต้องใช้ทองคำ 99 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะสามารถตีแผ่ขยายออกไปได้

มีขั้นตอนการผลิตคร่าวๆดังนี้
1.1 นำทองคำบริสุทธิ์ 99.99 % มาทำการรีด

1.2 นำแผ่นทองคำที่รีดแล้วมาทำการตัดเป็นแผ่นเล็กขนาด ประมาณ 0.6 x 1.0 ซม.

1.3 นำแผ่นทองที่ตัดเป็นชิ้นเล็กๆใส่กระดาษแก้ว มาวางซ้อนกัน โดยมีวิธีการซ้อนคือแผ่นทองหนึ่งแผ่นประกอบด้วยดาม 2 แผ่นหัวท้าย ซึ่งเรียกกว่า “กุบ”ทำการใส่กุบ นำแผ่นทองที่ซ้อนด้วยดามหลายๆแผ่น มาสวมปลอกด้วยกุบ (กุบทำจากแผ่นหนังวัว) เพื่อที่จะเตรียมนำไปตีต่อไป

1.4 การตีกุบ นำแผ่นทองที่สวมกุบนำไปตี วิธีการตีทองจะต้องตีด้วยค้อนทองเหลองเพราะทองเหลืองมีคุณสมบัติของความแข็งที่น้อยกว่าค้อนเหล็ก ถ้าใช้ค้อนเหล็กจะทำให้แผ่นทองที่นำมาตีเกิดการฉีกขาดได้

1.5 เมื่อได้ กุบออกมาแล้ว 2 อัน (สรรพนามเรียก “กุบ” ว่า “ขอน“ ) พอได้มา 2 ขอน นำกุบที่ได้มาย้าย แผ่นทอง มาใส่กระดาษแก้วแผ่นใหญ่ แล้วนำไปตี ต่อไป

1.6 การตัดทอง เมื่อตีทองออกมาแล้วมาทำการตัดทองตามขนาดที่จัดส่งโดยแบ่งคร่าวๆดังนี้ทองเต็ม เป็นทองคำเปลวที่มีขนาดต่างๆดังนี้

1.6.1 ทองเต็ม เป็นทองคำเปลวที่มีขนาดต่างๆดังนี้
- ขนาด 4 x 4 ซม.
- ขนาด 3.4 x 3.5 ซม.
1.6.2 ทองจิ้ม เป็นทองที่มีขนาดเล็กใส่ในแผ่นกระดาษที่ตัดไม่เต็มแผ่น
- ขนาด 2.5 x 2.5 ซม.
- ขนาด 5 X 1.5 ซม.

1.7 ชนิดของแผ่นทองเปลว แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ
- ทองคัด หมายถึงแผ่นทองเปลวที่ตัดออกมาตามขนาดที่กำหนดโดยไม่มีรอยต่อของแผ่นทองซึ่งมีราคาแพง
- ทองต่อ หมายถึงแผ่นทองเปลวที่มีการตัดต่อแผ่นทองโดยอาจมีการนำแผ่นทองเปลวมาต่อกันมากกว่า1แผ่นซึ่งมีราคาถูกกว่าทองคัด

1.8 ชนิดของทองที่นำมาใช้ทำแผ่นทองคำเปลว วัสดุที่ใช้ทำทองทองคำเปลวเมื่อนำมาทำเป็นทองคำเปลวแล้วมีการคัดเกรดได้อีก2 ชนิดคือ
- ทองแดง หมายถึง ทองซัว เป็นศัพท์เฉพาะของช่างตีทอง หมายถึง ทองเปลวที่ทำมาจากแผ่นทองคำที่บริสุทธิ์มากกว่า ทองเขียว เมื่อตีออกมาแล้วจะได้แผ่นทองที่มีสีทองเหลืองอร่ามออกแดง (ทองแดงมีความบริสุทธิ์ 99.99 %)
- ทองเขียว ทองเขียวเป็นศัพท์เฉพาะของช่างตีทองหมายถึงทองเปลวที่ทำมาจากแผ่นทองคำที่บริสุทธิ์น้อยกว่าทองแดง เมื่อตีออกมาแล้วจะได้แผ่นทองที่มีสีทองเหลืองอร่ามออกเขียว (ทองเขียวมีความบริสุทธิ์ 97.00 %)เพราะฉะนั้น ทองคำเปลวที่เป็นทองแดงจึงมีราคาแพงกว่า ทองคำเปลวที่เป็นทองเขียว

3 ความคิดเห็น: